วันพฤหัสบดีที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

การศึกษา

การศึกษา

วิทยาลัยอาชีวศึกษารัฐบาล

  1. วิทยาลัยเทคนิคขอนแก่น
  2. วิทยาลัยอาชีวศึกษาขอนแก่น
  3. วิทยาลัยเทคนิคน้ำพอง
  4. วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีขอนแก่น
  5. วิทยาลัยสารพัดช่างขอนแก่น
  6. วิทยาลัยการอาชีพขอนแก่น
  7. วิทยาลัยการอาชีพกระนวน
  8. วิทยาลัยการอาชีพชุมแพ
  9. วิทยาลัยการอาชีพพล
  10. วิทยาลัยการอาชีพบ้านไผ่

วิทยาลัยอาชีวศึกษาเอกชน

  1. วิทยาลัยเทคโนโลยีขอนแก่น
  2. วิทยาลัยเทคโนโลยีภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
  3. วิทยาลัยเทคโนโลยีการจัดการขอนแก่น
  4. วิทยาลัยเทคโนโลยีไทยบริหารธุรกิจขอนแก่น
  5. วิทยาลัยขอนแก่นเทคโนโลยีพณิชยการ
  6. วิทยาลัยพงษ์ภิญโญเทคโนโลยี
  7. วิทยาลัยเทคโนโลยีธุรกิจอาชีวะ
  8. วิทยาลัยเทคโนโลยีขอนแก่นบริหารธุรกิจ วิทยาลัยอาชีวศึกษาธุรกิจ
  9. วิทยาลัยอมตะเทคโนโลยีบริหารธุรกิจ อำเภอหนองสองห้อง
  10. วิทยาลัยชุมแพบริหารธุรกิจและเทคโนโลยี อำเภอชุมแพ
  11. วิทยาลัยเทคโนโลยีพลพณิชยการ ( ศูนย์บริการมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร ) อำเภอพล
 
 

 
 
  1. มหาวิทยาลัยขอนแก่น
  2. มหาวิทยาลัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
  3. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตขอนแก่น
  4. มหาวิทยาลัยรามคำแหง สาขาวิทยบริการเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดขอนแก่น
  5. มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น
  6. มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตอีสาน และ ศูนย์การศึกษาชุมแพ
  7. มหาวิทยาลัยศรีปทุม วิทยาเขตขอนแก่น
  8. สถาบันการบินพลเรือน (ศูนย์ฝึกการบินแห่งที่ 2)
  9. วิทยาลัยการปกครองท้องถิ่น มหาวิทยาลัยขอนแก่น
  10. วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
  11. วิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธร จังหวัดขอนแก่น
  12. วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี ขอนแก่น
  13. วิทยาลัยบัณฑิตเอเซีย
 
 

เขื่อนอุบลรัตน์

เขื่อนอุบลรัตน์


.....เป็นเขื่อนอเนกประสงค์ขนาดใหญ่ที่สุดในภาคอีสาน สร้างกั้นลำน้ำพอง ตรงช่องเขาแนวต่อของเทือกเขาภูพานและภูพานคำ บริเวณเขื่อนมีทิวทัศน์สวยงาม และมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่อการท่องเที่ยวครบครัน เป็นที่นิยมไปพักผ่อนกันมากตลอดเวลา


การดินทาง ใช้ทางหลวงหมายเลข ๒ (ขอนแก่น - อุดรธานี) เป็นระยะทาง ๒๖ กิโลเมตร แล้วแยกซ้ายเข้าเขื่อนอีก ๒๔ กิโลเมตร เป็นเขื่อนอเนกประสงค์ ที่ใหญ่ที่สุดของภาคตะวันออกเฉียงเหนือในปัจจุบัน เขื่อนนี้สร้างกั้นแม่น้ำพอง ชาวเมืองจึงเรียกกันว่า เขื่อนพองหนีบ เริ่มสร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๗ เสร็จเมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๙ ชาวขอนแก่นนิยมไปเที่ยวมาก เขื่อนอุบลรัตน์ เป็นเขื่อนแบบหินทิ้งยาว ๘๐๐ เมตร สูง ๓๒ เมตร เก็บกักน้ำไว้เหนือเขื่อนถึง ๒,๕๕๐ ล้านลูกบาศก์เมตร มีพื้นที่อ่างเก็บน้ำกว้างถึง ๔๑๐ ตารางกิโลเมตร เป็นทะเลสาบเหนือเขื่อนอันงดงามน่าเที่ยวเขื่อนอุบลรัตน์ นอกจากจะเป็นสถานที่น่าชมยิ่งแล้ว ยังเป็นที่ผลิตไฟฟ้าส่งไปยังจังหวัดต่างๆ ๘ จังหวัดอีกด้วย.......สำหรับท่านที่สนใจ จำสำรองที่พัก ห้องประชุมสัมมนา ร้านอาหาร และเรือท่องเที่ยว ติดต่อได้ที่ หน่วยบ้านพักรับรองเขื่อนอุบลรัตน์ โทร.(043) 446231 หรือติดต่อแผนกประชาสัมพันธ์เขื่อนอุบลรัตน์ โทร.(043) 446233-4 ต่อ 2050, 2056 โทรสาร (043) 446152


 
 
 
 
เที่ยวเขื่อนอุบลรัตน์
 

ผ้าไหม อ.ชนบท

ผ้าไหม อ.ชนบท


ผ้าไหมอำเภอชนบท
ผ้าไหมชนบท อำเภอชนบทไปตามทางหลวงหมายเลข2057 ซึ่งแยกจากทางหลวงหมายเลข 2 ตรงหลักกิโลเมตรที่399 ตรงข้ามกับอำเภอบ้านไผ่ เข้าไปอีก 11 กิโลเมตร มีการทอผ้าไหมพื้นเมือง
พวกซิ่นมัดหมี่ ผ้าไหมชนบทมีชื่อ เสียงมาก นักท่องเที่ยวที่เดินทางผ่านมักจะแวะเข้าไปชมและซื้อกันอยู่เสมอ ราคาย่อมเยาครับ

 
ตั้งอยู่บริเวณวิทยาลัยการอาชีพขอนแก่น เป็นหนึ่งในโครงการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 5 รอบ (12 สิงหาคม 2535) เพื่อเป็นศูนย์สืบสานพระราชปณิธานงานศิลปาชีพด้านผ้าไหมและผลิตภัณฑ์ไหมของภาคอีสาน รวมทั้งเป็นศูนย์อนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมและขนบธรรมเนียมประเพณีของชาวอีสาน ภายในอาคารจัดแสดงกรรมวิธีการผลิตตั้งแต่มัดย้อมจนถึงวิธีการทอ อุปกรณ์เครื่องใช้เกี่ยวกับไหมและของเก่าแก่ควรอนุรักษ์ รวมถึงผ้าไหมมัดหมี่โบราณลวดลายต่างๆ ที่พิเศษที่สุดคือที่นี่จัดแสดงผ้าไหมมัดหมี่ที่แพงที่สุดในโลกฝีมือชาวอ.ชนบท และเคยชนะการประกวดผ้าไหมของเอเชีย พร้อมทั้งได้รับพระราชทานถ้วยรางวัลจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี
ศาลาไหมไทย เปิดให้นักท่องเที่ยวชมทุกวันในเวลาราชการ รายละเอียดติดต่อที่วิทยาลัยการอาชีพขอนแก่น อำเภอชนบท จังหวัดขอนแก่น 40180 โทร. (043) 286160

การเดินทาง จากขอนแก่น ใช้ทางหลวงหมายเลข 2 (ขอนแก่น-โคราช) 44 กิโลเมตร เลี้ยวขวาที่สี่แยกบ้านไผ่เข้าทางหลวงหมายเลข 229 ไปอีก 11 กิโลเมตร ศาลาไหมไทยอยู่ทางซ้ายมือ (ตรงข้ามกับหนองกองแก้ว หนองน้ำงดงามของอำเภอชนบท)



 

 

พระธาตุขามแก่น


พระธาตุขามแก่น
แก่น
สถานที่ตั้ง : ตั้งอยู่บริเวณวัดเจติภูมิ บ้านขาม หมู่ที่ 7 ตำบลบ้านขาม อำเภอน้ำพอง
ลักษณะทั่วไป: เป็นพระธาตุที่มีความงดงามมาก ทุกปีในวันขึ้น15 ค่ำ เดือน 6
จะมีงานฉลองและนมัสการพระธาตุเป็นประจำปี

เส้นทางสู่พระธาตุขามแก่น :
.....เดินทางไปตามถนนสายขอนแก่น – กาฬสินธุ์ เลี้ยวซ้ายที่หลักกิโลเมตรที่ 12
บ้านโคกสีเป็นถนนราดยางตลอดมีป้ายบอกทางไปพระธาตุขามแก่นเป็นระยะ ๆ
จนถึงพระธาตุขามแก่น
 
 
 
ประวัติความเป็นมา.
......
พระธาตุขามแก่น เป็นเจดีย์ที่สำคัญและเก่าแก่ที่สุดองค์หนึ่งในประวัติศาสตร์เมืองขอนแก่น องค์พระธาตุขามแก่น ประดิษฐานอยู่ที่วัดเจติยภูมิ บ้านขาม ตำบลบ้านขาม อำเภอน้ำพอง ห่างจากตัวจังหวัดขอนแก่นไปตามถนนขอนแก่น - ยางตลาด เลี้ยวซ้ายบริเวณบ้านพรหมนิมิตร อำเภอเมืองขอนแก่น ประมาณ 15 กิโลเมตร เป็นเจดีย์สำคัญที่รู้จักกันดีแห่งหนึ่งในภาคอีสานไม่ปรากฎอายุ การสร้างที่แน่นอน
......พระธาตุขามแก่น มีประวัติความเป็นมาเป็นเรื่องเล่าขานกันมาช้านาน ว่ากษัตริย์แห่งโมริยวงศ์ได้ทรงทราบข่าวการสร้าง เจดีย์ที่เมืองนครพนม ซึ่งพระอรหันต์ พระเถระและชาวเมืองนครพนมในสมัยนั้นร่วกันสร้างด้วยแรงศรัทธา เพื่อประดิษฐานพระบรมสารีรักธาตุ แห่งองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า โดยให้ชื่อจดีย์องค์นั้นว่า "พระธาตุพนม" กษัตริย์แห่งเมืองโมริยวงศ์ มีศรัทธาใคร่จำนำอังคารธาตุไปร่วม ประดิษฐานร่วมกับพระบรมสารีริกธาตุ จึงอัญเชิญพระอังคารธาตุออกเดินทางปยังเมืองนครพนม พร้อมด้วยพระอรหันต์ 9 องค์ ในระหว่างการเดินทางได้พากันพักแรมค้างคืน ณ สถานที่แห่งหนึ่ง ซึ่งมีตอมะขามใหญ่ตายซากตอหนึ่งผุเหลือแต่แก่น และได้อัญเชิญ พระอังคารธาตุวางไว้บนตอมะขามผุนั้น
......เมื่อเช้ารุ่งขึ้นจึงออกเดินทางต่อไปยังเมืองนครพนม ครั้นเมื่อลุถึงเมืองนครพนมกลับปรากฎว่าพระธาตุพนมได้สร้างเสร็จ สมบูรณ์และได้บรรจุพระบรมสารีกธาตุไว้ในองค์พระธาตุเรียบร้อยแล้ว จะนำสิ่งใดเข้าไปบรรจุภายในมิได้อีกแล้ว ดังนั้นโมรียกษัตริย์และคณะ จึงได้ออกเดินทางกลับตามเส้นทางเดิมด้วยความผิดหวังที่ไม่สามารถอันเชิญพระอังคารธาตุไปประดิษฐาน ณ พระธาตุพนมได้ เมื่อเดินทางผ่านมาถึงตอมะขามใหญ่ซึ่งเคยพักค้างแรม ต่างประหลาดใจ เมื่อปรากฎว่าตอมะขามผุนั้น กลับเจริญงอกงามแตกใบเขียวขจี โมรียกษัตริย์และคณะเห็นเป็นอัศจรรย์ในบุญญาธิการแห่งพระอังคารธาตุ ที่แผ่พระเมตตาแม้ตอมะขามตอหนึ่ง จึงทรงโปรดให้สร้าง พระธาตุเจดีย์ครอบต้นมะขามใหญ่ดังกล่าว และอัญเชิญพระอังคารธาตุประดิษฐานไว้ภายในพระธาตุองค์นั้น และได้บรรจุพระธรรมคำสั่งสอน ของพระพุทธเจ้า 9 บท ไว้ในเจดีย์นั้น เรียกว่า "พระเจ้าเก้าองค์"
......ต่อมาบริเวณนั้นได้มีชาวบ้านมาอยู่อาศัยกันมากขึ้นกลายเป็นหมู่บ้านมีชื่อ "บ้านขาม" ตามชื่อตอมะขามอันเป็นที่ประดิษฐาน พระอังคารธาตุ ต่อมาได้ย้ายเมืองต่อๆ มาหลายแห่ง จนลุถึง พ.ศ.2340 ในรัชสมัยระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่หนึ่ง
......เพีย เมืองแพน นายกองบ้านชีโหล่น แขวงเมืองสุวรรณภูมิ จึงอพยพผู้คนไปตั้งบ้านเรือนที่ "บ้านบึงบอน" ขอสมัครอยู่กับเมืองนครราชสีมา เจ้าพระยานครราชสีมาจึงมีใบบอกไปยังกรุงเทพฯ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช จึงโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเพี้ย เมืองแพน เป็นเจ้าเมือง และพระราชทานชื่อใหม่ว่า "พระนครศรีบริรักษ์" ยกบ้านบึงบอนขึ้นเป็น "เมืองขอนแก่น" จึงนับเอาปี พ.ศ.2340 เป็นปีแห่งการตั้งเมืองขอนแก่น สันนิฐานกันต่อๆ มาโดยตลอดว่าบริเวณดังกล่าว น่าจะมีขอนไม้มากแต่อีกประการหนึ่ง ก็กล่าวว่า น่าจะเพี้ยนมาจากคำว่า "ขามแก่น"
......พระธาตุขามแก่นมีลักษณะเป็นพระธรรมเจดีย์ (ตามลักษณะเจดีย์สี่แบบ คือ พระธาตุเจดีย์ บริโภคเจดีย์ พระธรรมเจดีย์ และอุเทสิกเจดีย์ ) จัดอยู่ในกลุ่มพระธาตุฐานต่ำแบบพื้นบ้านบริสุทธิ์ ได้รับการบูรณะปฏิสังขรณ์ ในสมัยต่อมาจนมีรูปแบบและทรวดทรงที่แปลก ออกไป ปัจจุบันพระธาตุขามแก่นมีลักษณะประกอบด้วยฐานบัวคว่ำสองชั้น ลักษณะโค้งย้วย เหลือขึ้นไปเป็นบัลลังค์ ต่อด้วยเรือนธาตุและยอดธาตุ ซึ่งย่อมุมกลีบมะเฟือง จากนั้นจึงเป็นสวนปลียอดและฉัตร

 
 
วีดีโอ พระธาตุขามแก่น
 
 

วนอุทยานน้ำตกบ๋าหลวง

วนอุทยานน้ำตกบ๋าหลวง


 
 
 
วนอุทยานน้ำตกบ๋าหลวงอยู่ในท้องที่บ้านโคกล่าม ตำบลห้วยยาง อำเภอกระนวน จังหวัดขอนแก่น อยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าดงมูล มีเนื้อที่ประมาณ 1,200 ไร่ กรมป่าไม้ได้ประกาศจัดตั้งเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2526
 

วีดีโอ วนอุทยานน้ำตกบ๋าหลวง
 
 

อุทยานแห่งชาติน้ำพอง

                                                                อุทยานแห่งชาติน้ำพอง



 
 

อุทยานแห่งชาติน้ำพอง เป็นชื่อเรียกตามต้นกำเนิดลำน้ำพองที่ไหลมารวมกับอ่างเก็บน้ำเขื่อนอุบลรัตน์ (เดิมชื่ออ่างเก็บน้ำน้ำพอง) เป็นอุทยานแห่งชาติที่จัดตั้งขึ้นตามข้อเสนอของจังหวัดขอนแก่น แต่เดิมมีชื่อเรียกว่า “น้ำพอง-ภูเม็ง” เพราะมีพื้นที่บางส่วนอยู่ในเทือกเขาภูเม็ง อุทยานแห่งชาติน้ำพองตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของจังหวัดขอนแก่นติดกับเขื่อนอุบลรัตน์ ครอบคลุมพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าโสกแต้ ป่าภูเม็ง ป่าโคกหลวง ป่าโคกหลวงแปลงที่สาม ป่าภูผาดำ ป่าภูผาแดง ในเขตอำเภออุบลรัตน์ อำเภอบ้านฝาง อำเภอหนองเรือ อำเภอมัญจาคีรี และ กิ่งอำเภอโคกโพธิ์ไชย จังหวัดขอนแก่น รวมทั้งพื้นที่บางส่วนของ อำเภอบ้านแท่น อำเภอแก้งคร้อ จังหวัดชัยภูมิ มีเนื้อที่ประมาณ 197 ตารางกิโลเมตร หรือ 123,125 ไร่

จังหวัดขอนแก่น ได้มีหนังสือลงวันที่ 30 มีนาคม 2538 ขอให้กรมป่าไม้พิจารณากำหนดพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ป่าสงวนแห่งชาติป่าภูเม็ง ป่าโคกหลวง ป่าโคกหลวงแปลงที่สาม ในท้องที่จังหวัดขอนแก่น ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ ซึ่งเป็นป่าอนุรักษ์ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 10 และ 17 มีนาคม 2535 เป็นป่าต้นน้ำลำธาร มีทิวทัศน์และจุดเด่นที่สวยงาม โดยจังหวัดขอนแก่นได้แต่งตั้งคณะกรรมการทำการสำรวจปรับปรุงแนวเขตให้เป็นที่ยอมรับของประชาชนในพื้นที่ทุกฝ่ายแล้ว ไม่มีปัญหาเรื่องแนวเขตและที่ทำกินของราษฎรในพื้นที่ป่าดังกล่าว

กรมป่าไม้ได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปดำเนินการสำรวจพื้นที่ป่าดังกล่าวปรากฏว่า พื้นที่ป่ายังมีความสมบูรณ์ หากพิจารณาตามความหมายของอุทยานแห่งชาติแล้วยังไม่เข้าหลักเกณฑ์ แต่สมควรอนุรักษ์ไว้สำหรับประชาชนจังหวัดขอนแก่น โดยเห็นสมควรกำหนดพื้นที่ป่าอนุรักษ์ใกล้เคียงเพิ่มเติม ได้แก่ ป่าโคกหลวง ป่าภูผาดำ และป่าภูผาแดง จังหวัดชัยภูมิ และป่าโสกแต้ รวมพื้นที่อ่างเก็บน้ำเขื่อนอุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น เป็นอุทยานแห่งชาติด้วย เนื่องจากยังมีสภาพป่าสมบูรณ์ มีจุดเด่นและจุดชมทิวทัศน์ที่น่าสนใจ

อุทยานแห่งชาติน้ำพองได้มีพระราชกฤษฎีกากำหนดที่ดินป่าโสกแต้ในท้องที่ตำบลเขื่อนอุบลรัตน์ ตำบลทุ่งโป่ง ตำบลโคกสูง อำเภออุบลรัตน์ ตำบลนาหว้า ตำบลหนองกุงเซิน อำเภอภูเวียง ตำบลโคกงาม ตำบลป่าหวายนั่ง ตำบลบ้านฝาง อำเภอบ้านฝาง และตำบลบ้านผือ อำเภอหนองเรือ จังหวัดขอนแก่น ป่าภูเม็ง และป่าโคกหลวง ในท้องที่ตำบลบ้านเม็ง ตำบลยางคำ อำเภอหนองเรือ ตำบลคำแคน ตำบลนางาม อำเภอมัญจาคีรี ตำบลป่ามะนาว อำเภอบ้านฝาง จังหวัดขอนแก่น และตำบลสระพัง ตำบลบ้านเต่า ตำบลหนองคู อำเภอบ้านแท่น จังหวัดชัยภูมิ และป่าโคกหลวง ป่าภูผาดำ ป่าภูผาแดง และป่าโคกหลวง แปลงที่สาม ในท้องที่ตำบลนางาม อำเภอมัญจาคีรี ตำบลบ้านโคก ตำบลซับสมบูรณ์ กิ่งอำเภอโคกโพธิ์ไชย อำเภอมัญจาคีรี จังหวัดขอนแก่น และตำบลหนองสังข์ ตำบลบ้านแก้ง ตำบลช่องสามหมอ อำเภอแก้งคร้อ จังหวัดชัยภูมิ ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 117 ตอนที่ 105ก ลงวันที่ 15 พฤศจิกายน 2543
ผาสวรรค์

เป็นลานหินขนาดใหญ่ยื่นออกไปทางทิศเหนือและทิศตะวันตก ถือได้ว่าเป็นจุดชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามไม่แพ้หินช้างสี ตั้งอยู่ห่างจากหินช้างสีไปทางทิศเหนือประมาณ 3 กิโลเมตร โดยการเดินเท้า การเดินทางเข้าไปค่อนข้างลำบากจึงเหมาะสำหรับผู้ที่เดินทางไปพักค้างแรมมากกว่าไปเช้าเย็นกลับ
 
เขาภูเม็ง

ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของที่ทำการอุทยานฯ มีสภาพเป็นป่าเต็งรัง ป่าดิบแล้ง ที่สมบูรณ์ เป็นแหล่งสมุนไพรและป่าต้นน้ำชั้นดีของน้ำพอง มีสัตว์ป่าอาศัยอย่างชุกชุม จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับธรรมชาติและสมุนไพรอย่างแท้จริง

    วีดีโอ อุทยานแห่งชาติน้ำพอง  
 
 

 
 

อุทยานแห่งชาติภูผาม่าน

อุทยานแห่งชาติภูผาม่าน
 





อุทยานแห่งชาติภูผาม่าน เรียกตามชื่อของภูเขาเทือกหนึ่งทางตอนใต้ของอุทยานแห่งชาติที่มีหน้าผาสูงชันคล้ายสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่มองดูเหมือนกับผ้าม่านผืนใหญ่ อยู่ในท้องที่อำเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น และอำเภอภูกระดึง จังหวัดเลย มีเนื้อที่ประมาณ 350 ตารางกิโลเมตร หรือ 218,750 ไร่

อุทยานแห่งชาติภูผาม่าน แต่เดิมเคยเป็นพื้นที่ที่สมบูรณ์ไปด้วยพรรณไม้และสัตว์ป่านานาชนิด ปัจจุบันผลจากการทำสัมปทานป่าไม้ทำให้พื้นป่าและจำนวนสัตว์ป่าลดลงอย่างรวดเร็ว กรมป่าไม้จึงได้มีคำสั่งที่ 1473/2532 ลงวันที่ 27 กันยายน 2532 มอบหมายให้ นายพนม พงษ์สุวรรณ นักวิชาการป่าไม้ 4 ให้สำรวจเพิ่มเติมและจัดตั้งพื้นที่ป่าดงลาน อำเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น และป่าภูเปือย อำเภอภูกระดึง จังหวัดเลย และพื้นที่ป่าใกล้เคียงเป็นอุทยานแห่งชาติ จากการสำรวจพื้นที่พบว่า เป็นพื้นที่แหล่งต้นน้ำลำธารและมีจุดเด่นทางธรรมชาติหลายแห่ง โดยเฉพาะถ้ำและน้ำตก

ทางราชการจึงมีประกาศกฤษฎีกา กำหนดให้รวมพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติภูเปือย อำเภอภูกระดึง จังหวัดเลย เข้ากับพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติดงลาน ท้องที่อำเภอชุมแพ กิ่งอำเภอภูผาม่าน จังหวัดขอนแก่น จัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติภูผาม่าน ในปี พ.ศ.2534 โดยได้พระราชกฤษฏีกากำหนดบริเวณที่ดินป่าดงลานในท้องที่ตำบลนาหนองทุ่ม อำเภอชุมแพ และตำบลห้วยม่วง ตำบลวังสวาบ ตำบลนาฝาย ตำบลภูผาม่าน กิ่งอำเภอภูผาม่าน อำเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น และป่าภูเปือยในท้องที่ตำบลภูกระดึง ตำบลศรีฐาน อำเภอภูกระดึง จังหวัดเลย เนื้อที่โดยประมาณ 218,750 ไร่ หรือ 350 ตารางกิโลเมตร เป็นอุทยานแห่งชาติ โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 108 ตอนที่ 215 ลงวันที่ 8 ธันวาคม 2534 จัดเป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 72 ของประเทศ
ลักษณะภูมิประเทศ
ส่วนใหญ่เป็นเทือกเขาหินปูนที่มีความสูงชันสลับซับซ้อนกันเป็นแนวยาวสลับกับที่ราบลุ่มเชิงเขา สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 200-800 เมตร เป็นแหล่งต้นน้ำของห้วยภูฮี ห้วยชมพู ห้วยคะเฮ้า ห้วยจอก ห้วยยาง ห้วยซำแคน ห้วยตากว้าง ห้วยข้าวหลาม ห้วยสงขะยวน และห้วยหม้อแตก ซึ่งลำห้วยเหล่านี้ไหลลงสู่ลำน้ำพองที่ไหลมาจากอุทยานแห่งชาติภูกระดึงและลำน้ำเชิญในจังหวัดขอนแก่น สภาพดินเป็นดินร่วนปนทรายและดินลูกรังอยู่ปะปนกับหินชนิดต่างๆ

ลักษณะภูมิอากาศ
ลักษณะอากาศโดยทั่วไป อากาศร้อนถึงร้อนจัดอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ย 39 องศาเซลเซียส

พืชพรรณและสัตว์ป่า
สภาพป่าประกอบด้วยป่าดิบเขา ป่าดิบแล้ง ป่าเบญจพรรณ และป่าเต็งรัง พรรณไม้สำคัญ ได้แก่ ประดู่ มะค่าโมง ตะแบก เหียง พลวง แดง เต็ง รัง พรรณไม้พื้นล่างที่ขึ้นอยู่หนาแน่น ได้แก่ หว่านไพร ชัน ข่าป่า เพ็ก หวาย กล้วยไม้ป่า หญ้าคา แฝก ฯลฯ

สัตว์ป่าที่พบได้แก่ เลียงผา หมูป่า เก้ง ลิง กระต่ายป่า นิ่มหรือลิ่น เม่น ตะกวด ไก่ป่า นกชนิดต่าง ๆ และแมลงกว่า 200 ชนิด

ถ้ำพญานาคราช

เป็นถ้ำที่มีความสวยงามเป็นอันดับ 1 ของอุทยานแห่งชาติภูผาม่าน ภายในถ้ำมืดสนิท แบ่งออกเป็นห้องๆ แต่ละห้องประกอบด้วยหินงอกหินย้อยที่ส่องประกายแวววาวระยิบระยับสวยงามตระการตา โดยเฉพาะห้องโถงใหญ่มีม่านหินย้อยขนาดใหญ่ห้อยลงมาจากเพดานสูงแล้วแผ่กว้างออก รถยนต์สามารถเข้าถึงเชิงเขาที่เป็นตัวถ้ำได้



 
 
 
วิดีโอ อุทยานแห่งชาติภูผาม่าน